วันอังคารที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

10 เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ 4G ที่คนไทยต้องรู้ไว้ก่อนใช้งานจริง

 หลายคนอาจจะเคยคิดว่า 3G ก็แรงมากพอในการใช้โทรศัพท์ Smart Phone แล้ว แต่แน่นอนเทคโนยีใหม่ๆก็มักจะมาแทนที่ของเก่าอยู่ตลอดเวลา เช่นเดียวกับ 3G ที่กำลังจะถูกแทนที่ด้วย  ที่ทันสมัยและรวดเร็วกว่าเดิม และคนไทยเรารู้จัก 4G กันมากพอแล้วหรือยัง
ทีมงาน toptenthailand เลยขอรวบรวมข้อมูลในหัวข้อ 10 เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ 4G ที่คนไทยต้องรู้ไว้
10.ประเทศที่มี 4G ครอบคลุมมากที่สุด
     ประเทศนั้นก็คือเกาหลีใต้ ครอบคลุมถึง 97% และอันดับ 2 ก็คือ ญี่ปุ่น 90% อันดับ3 ก็คือ ฮ่องกง 86%
9. 4G ที่ไหนแรงที่สุด
     ประเทศ Australia มีความเร็วในการดดาวว์โหลดเฉลี่ยอยู่ที่ 24.5 mbps
8.มือถือที่รองรับ 4G LTE
     ปัจจุบัยมีอุปกรณ์ที่รองรับ LTE หรือ 4G มากถึง 3,745 รุ่น จากผู้ผลิตกว่า 339 ราย
7.ราคาเริ่มต้นในการประมูล
     ในการประมูล 4G ที่เริ่มต้นในวันที่ 12 พฤศจิกายน 2558 นั้นมีราคาเริ่มต้น 15,912 ลบ. เคาะราคาครั้งละ 796 ลบ. และเมื่อราคาแตะ 19,890 ลบ. การเคาะราคาจะเป็นครั้งละ 398 ลบ.
6.ระยะเวลาในการประมูล
     ณ ตอนกำเนิด Content นี้การประมูลยังไม่จบสิ้น โดยล่าสุดอยู่ที่การบิดครั้งที่ 79 มูลค่ารวม 76,400 ลบ. และหลายคาดว่าอาจจะทะลุแสนล้านบาทก็เป็นไปได้ ที่เยอรมันในการประมูล 4G ใช้เวลาทั้งสิ้น 27 วัน 224 รอบ และที่อินเดียใช้เวลาในการประมูลถึง 19 วัน 115 รอบ
5.1800Mhz กับ 900Mhz ต่างกันยังไง?
     อย่างที่ทราบว่าในวันที่ 12 พฤศจิกายน 2558 มีการประมูล 4G คลื่น 1800Mhz และในเดือนธันวาคม 2558 จะมีการประมูลคลื่น 900Mhz อีกครั้ง ส่วนความต่างระหว่าง 2 คลื่นนี้ก็คือ 900Mhz จะสามารถกระจายคลื่นได้ไกลกว่า แต่อุปกรณ์ที่รองรับมีน้อยกว่า และเช่นเดียวกัน 1800Mhz กระจายคลื่นได้ไม่ไกลเท่า แต่มีอุปกรณ์ที่รองรับมากกว่า
4.4G เร็วกว่า 3G มากแค่ไหน
     4G ได้รับการพัฒนาต่อยอดมาจาก 3G โดยมีความเร็วมากกว่า 3G แบบเดิมถึง 5 เท่า โดยทำความเร็วได้ตั้งแต่ 100 Mbps ไปจนถึง 1024 Mbps เลยทีเดียว
3.จริงๆแล้ว 4G หมายถึงอะไร?
     4G จริงแล้วหมายถึง Forth Generation ที่มาแทนที่ระบบที่ออกมานานแล้วอย่าง 3g และเหตุผลที่เกิด 4G ขึ้นมา ก็เพราะที่จะแก้ไขจุดอ่อนของระบบเดิม โดยระบบเครือข่ายใหม่นี้ จะสามารถใช้งานได้ แบบไร้สาย รวมถึงคุณสมบัติการเชื่อมต่อเสมือนจริงในรูปแบบสามมิติ (three-dimensional) ระหว่างผู้ใช้โทรศัพท์ด้วยกันเอง นอกจากนั้น สถานีฐาน ซึ่งทำหน้าที่ในการส่งผ่านสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่จากเครื่องหนึ่ง ไปยังอีกเครื่องหนึ่ง
2.ระบบ 4G มีกี่แบบ
     ระบบ 4G ในปัจจุบันจะมีทั้งหมด 2 ระบบย่อย นั้นก็คือ LTE หรือ Long term Evolution และ WI-MAX แต่ระบบย่อยแรกจะได้รับความนิยมมากกว่า และแน่นอนว่าใช้กันในหลายประเทศทั่วโลก แต่สำหรับ Wi-MAX จะใช้กันแค่ในบางประเทศ ยกตัวอย่างเช่น ญี่ปุ่น , ไต้หวัน รวมไปถึง บังคลาเทศ
1.มีใครร่วมประมูล 4G บนคลื่น 1800 Mhz บ้าง?
     ในการประมูลที่ถูกจัดขึ้นและเริ่มประมูล 4G ภายใต้คลื่น 1800Mhz นั้นมีทั้งหมด 4 เจ้า ประกอบด้วย JAS หรือ บริษัท แจส โมบาย บรอดแบรนด์ จำกัด , AIS หรือ บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด , DTAC หรือ บริษัท ดีแทค ไตรเน็ต จำกัด และ Truemove H หรือ บริษัท ทรูมูฟ เอช ยูนิเวอร์แซล คอมมิวนิเคชั่น จำกัด

**หมายเหตุ
     ข้อมูลทั้งหมดที่ทาง toptenthailand.com นำเสนอได้มาจากการสำรวจความคิดเห็นเชิงสถิติ ด้วยขั้นตอนที่ต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับความเหมาะสม ของหัวข้อนั้นๆ ทางเว็บไซต์ toptenthailand.com มิได้มีเจตนาที่จะนำเสนอข้อมูลดังกล่าวเพื่อชี้นำ หรือ ก่อให้เกิดความแตกแยกใดๆ ในสังคมทั้งสิ้น เราและทีมงานเพียงแต่ต้องการนำเสนอข้อมูลทางสถิติที่เรารวบรวมเพื่อเป็นสาระ และเป็นการสะท้อนอีกด้านหนึ่งของสังคม ให้ผู้ใช้อินเตอร์เน็ต และประชาชน ทั่วไปรับชมเท่านั้น (โปรดใช้วิจารณญาณในการชม และบริโภคข้อมูลจาก toptenthailand.com) และหรือในบางกรณี www.toptenthailand.com จะทำหน้าที่ เป็นสื่อกลางในการรวบรวม และนำเสนอข้อมูลในการจัดอันดับที่มีอยู่แล้วในสื่อต่างๆ ทั้งทาง Internet และสิ่งพิมพ์ โดยเราจะอ้างอิง ให้เครดิต ถึงแหล่งที่มาในทุกๆ ครั้งไป


สนับสนุนเนื้อหา: ทีมงาน toptenthailand.com

วันอาทิตย์ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

ประโยชน์ของการใช้แท็บเล็ตเพื่อการศึกษาในเด็ก

            ในปัจจุบันเทคโนโลยีการสื่อสารสารสนเทศได้ควบรวมกลายเป็นสิ่งจำเป็นในการดำรงชีวิตของคนในยุคปัจจุบันอย่างแยกไม่ออก ซึ่งหน่วยงานด้านการศึกษามีการใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ประเภทต่างๆเข้ามาเป็นสื่อในการเรียนการสอนกันมากขึ้น วันนี้หัวเว่ย คอนซูมเมอร์ บิสสิเนส กรุ๊ป (ประเทศไทย) มีความรู้เกี่ยวกับประโยชน์ของการใช้แท็บเล็ตเพื่อการศึกษาในเด็กมาฝากกัน (อ่านต่อคลิ้ก)
unnamed-8

วันศุกร์ที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

โพสต์ต้องคิด คลิกเสี่ยงคุก!! 10 พฤติกรรมที่ใช้งานโซเชียลมีเดียกระทำความผิด

      กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) จัดกิจกรรมรณรงค์ “โพสต์ต้องคิด…คลิกเสี่ยงคุก” โดยระบุว่า ต้องการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนตระหนักรู้เกี่ยวกับการโพสต์ แชร์ ข้อความเท็จ ที่สร้างความเสียหายให้ผู้อื่น และสร้างความวุ่นวายในสังคม ว่า มีความผิดตามกฎหมาย ไม่ต้องการให้ประชาชนตกเป็นเหยื่อ หรือเป็นผู้กระทำผิดเสียเอง
140314-facebook-illustration-jsw-1007a_8e6c9f0c83f147f21eafd39eb07cc0d9

เพราะการกดไลค์ หรือกดแชร์อาจเข้าข่าย โดยไม่สามารถใช้คำว่ารู้เท่าไม่ถึงการณ์มาเป็นข้ออ้างตามกฎหมายได้ ซึ่งแม้บางคนรู้กฎหมายอยู่แล้ว แต่ชะล่าใจว่าไม่มีเจ้าหน้าที่ ไม่สามารถดำเนินการได้ แต่ความเป็นจริง ความผิดเทคโนโลยีสืบง่าย เพราะมีหลักฐานที่ชัดเจนเป็นวิทยาศาสตร์

1. อัพโหลดรูปลามกอนาจาร
2. ปล่อยข่าวลือ ทำให้บ้านเมืองเกิดความวุ่นวาย
3. ตัดต่อภาพบุคคลอื่น ทั้งภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหว ทำให้เจ้าของภาพเสียหาย อับอาย
4. แอบขโมยข้อมูลของผู้อื่นไปใช้ประโยชน์ส่วนตัว เพื่อหากำไร หรือใช้กลั่นแกล้ง
5. กุเรื่องใส่ร้ายป้ายสีให้ผู้อื่นเสียหาย อับอาย
6. แอบดูและดัดแปลง นำไอดี หรือพาสเวิร์ดบุคคลอื่นไปใช้ เพื่อแอบดูข้อมูลของผู้อื่น
7. แก้ไขเพิ่มเติมไฟล์งานของบุคคลอื่น ทำให้เกิดความเสียหายแก่เจ้าของไฟล์
8. ส่งต่อข้อมูลโดยไม่บอกที่มา สร้างความรำคาญ
9. แชร์ข้อมูลโดยไม่คัดกรอง และเป็นข้อความที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
10.โพสต์ข้อความที่หมิ่นสถาบันเบื้องสูง
ซึ่งเจ้าหน้าที่จะมีมาตรการลงโทษอย่างจริงจัง ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ที่อาจมีโทษจำคุกถึง 15 ปี
ขอบคุณบทความจาก flashfly

วันพุธที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

Huawei โชว์เทคโนโลยี Super Quick Charging แค่ 5 นาทีชาร์จแบตเตอรี่ได้ 48% (ชมคลิป)

Screen Shot 2558-11-16 at 1.37.28 PM
สถาบันวิจัย Watt Lab ของ Huawei ได้โชว์เทคโนโลยีชาร์จแบตเตอรี่ความเร็วสูงแบบใหม่ที่เรียกว่า Super Quick Charging ที่ชาร์จไฟเข้าแบตเตอรี่ได้รวดเร็วกว่าแบบเดิมมาก โดยได้ทำการทดสอบนำแบตเตอรี่ความจุ 600mAh มาชาร์จในเวลาสั้นๆเพียง 2 นาทีได้มาถึง 68% และเมื่อนำแบตเตอรี่ความจุขนาด 3,000mAh มาชาร์จในเวลาเพียง 5 นาทีได้มาถึง 48% เลยทีเดียว (อ่านต่อคลิ้ก)

วันอังคารที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

Google ปัด ไม่มีแผนรวม Android กับ Chrome OS

เมื่อวานมีข่าวว่าในอนาคตอันใกล้นี้เราอาจมีโอกาสได้เห็นและได้ใช้คอมพิวเตอร์ภายใต้ Chrome OS ที่รวมคุณสมบัติของ Android เข้าไว้เป็นหนึ่งเดียว เพื่อให้เกิดเป็นระบบปฏิบัติการแบบครบวงจร สามารถใช้งานได้อย่างไร้รอยต่อ
Wall Street Journal สื่อดังในต่างประเทศ เปิดเผยข้อมูลล่าสุดว่า Google เดินหน้าแผนการควบรวม Chrome OS และ Android ให้เป็นหนึ่งเดียวกัน ซึ่งจะสามารถทำงานได้ทั้งคอมพิวเตอร์พีซี และ Chromebooks (แต่ในอนาคตอาจใช้ชื่อใหม่) โดยแผนการนี้เริ่มต้นมาเป็นเวลา 2 ปีแล้ว และคาดว่าจะเริ่มปล่อยต้นแบบภายในปี 2016 ก่อนจะพัฒนาให้มีความสมบูรณ์จนสามารถใช้งานทั่วไปได้ภายในปี 2017 เดิมที Chrome OS เป็นระบบปฏิบัติการที่มีเฉพาะอุปกรณ์ Chromebook เท่านั้น แต่จะเห็นได้ว่า Google เริ่มเพิ่มความสามารถของ Chrome OS ให้รองรับกับแอพฯ และบริการต่างๆ ของ Android ได้มากขึ้น ซึ่งแผนการควบรวมครั้งนี้อาจมีการปรับการใช้งานในหลายๆ ส่วน แต่จะยังคงบราวเซอร์ Google Chrome ไว้เช่นเดิม อีกหนึ่งการเปลี่ยนแปลงที่คาดว่าจะเกิดขึ้น อาทิ การปรับ UI ให้เหมาะสมกับฮาร์ดแวร์อื่นๆ เช่น เมาส์, ทัชแพด และคีย์บอร์ด เพื่อให้เกิดความง่ายสำหรับผู้ใช้ทั่วไป ส่วนจะมีโน้ตบุกที่เป็น Android เพียวๆ เลยหรือไม่นั้น คงต้องดูกันต่อไป
หลังจากที่เมื่อวานทาง Wall Street Journal  ได้รายงานว่า Google มีแผนจะรวมเอาระบบปฏิบัติการ Chrome OS กับ Android เข้าด้วยกันภายในปี 2017  วันนี้ทาง Google ได้ออกมาปฏิเสธข่าวดังกล่าวเสียแล้ว…
 
อย่างที่เราทราบกันดีว่า Smartphone และ Tablet ที่ใช้ระบบปฏิบัติการของ Google จะใช้ระบบ Android แต่ Chromebook (คล้ายๆโน้ตบุ๊ค แต่ใช้งานผ่าน Cloud เป็นหลัก) จะใช้ระบบปฏิบัติการ Chrome OS ซึ่งเมื่อวานก็มีข่าวลือว่าทาง Google จะรวม 2 ระบบเข้าด้วยกัน เพื่อให้อุปกรณ์ต่างๆใช้ระบบปฏิบัติการเพียงระบบเดียว อย่างไรก็ตาม Hiroshi Lockheimer หัวหน้าฝ่าย Android , Chrome OS และ Chromecast ของ Google ได้ออกมาปฏิเสธข่าวลือดังกล่าวผ่านทางทวิตเตอร์แล้ว และยืนยันว่า Chromebook ยังคงจะใช้ระบบ Chrome OS เหมือนเดิม แต่ในอนาคตทั้ง 2 ระบบจะมีรูปแบบการทำงานที่ใกล้เคียงกันมากขึ้น เนื่องจากระบบทั้ง 2 ก็ถูกพัฒนามาจาก Linux เหมือนๆกัน จึงง่ายที่จะทำให้ประสบการณ์การใช้งานของ 2 ระบบนั้นใกล้เคียงกัน ถึงแม้ว่าที่บ้านเราอาจจะมีคนใชช้ Chromebook ไม่มานัก แต่ที่ต่างประเทศ โดยเฉพาะในแวดวงการศึกษา Chromebook ได้รับการตอบรับอย่างดี เนื่องด้วยราคาที่ถูก ตอบโจทย์การใช้งานทั่วไปได้
ขอขอบคุณแหล่งที่มาจาก : aRipfan 1 / aRipfan 2

วันอาทิตย์ที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

5 สิ่งไม่ควรทำ ใช้เน็ตสาธารณะ

            ปัจจุบันอินเทอร์เน็ตไร้สายกลายเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับผู้บริโภค กับการใช้ควบคู่กับสมาร์ทโฟน แท็บเล็ตหรือแม้กระทั่งคอมพิวเตอร์โน้ตบุก แต่นอกจากการใช้ 3G หรือ 4G แล้ว บางครั้งผู้บริโภคบางรายอาจหวังพึ่งการใช้อินเทอร์เน็ตหรือ Wi-Fi ฟรี หรือบางรายอาจมีความจำเป็นต้องมาใช้คอมพิวเตอร์สาธารณะ
       ซึ่งการกระทำดังกล่าวอาจแอบแฝงอันตรายจากบรรดาผู้ไม่หวังดีที่จ้องขโมยรหัสผ่านต่างๆ รวมไปถึงใช้ช่องทางออนไลน์สาธารณะเพื่อโจรกรรมข้อมูล ดังนั้นเพื่อเป็นการใช้งานอินเทอร์เน็ตสาธารณะแบบปลอดภัยไว้ก่อน จะมีวิธีอย่างไรบ้าง ไปชมกันครับ (อ่านต่อคลิ้ก)

วันเสาร์ที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

ชวนชาว Social เปลี่ยนรูป Profile ร่วมให้กำลังใจชาวปารีสกันเถอะ

จากเหตุความรุนแรงในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส Facebook จึงมีการจัดให้เปลี่ยน Profile แสดงสัญญาลักษณ์เป็นทางชาติฝรั่งเศส เพื่อให้กำลังใจชาวปารีส โดยรูปของคุณจะเป็นมีธงชาติฝรั่งเศส โดยมีวิธีการดังนี้
     ให้เข้า facebook ของคุณแล้วไม่ต้องทำอะไรมาก หากเพื่อนของคุณเปลี่ยนหน้าตาจะมีคำสักชวนในลักษณะภาพนี้ให้กดปุ่ม Try it
     จากนั้นจะมี Theme เป็นธงชาติฝรั่งเศสให้คุณปรับแต่งตามความเหมาะสม คุณสามารถเลือกให้กลับมาเป็นรูปปกติได้จากปุ่มตั้งเวลาจากคำว่า Never เปลี่ยนเป็น 1 ชั่วโมง 1 วัน หรือ 1 สัปดาห์ เมื่อแล้วจากนั้นกด Use as Profile รูปของคุณก็จะเปลี่ยนทันที
     ซึ่งตอนนี้ก็มีหลายคนลองเปลี่ยนแล้ว อย่าลืมลองดูเปลี่ยนเพื่อเป็นการ #prayforparis และ #‎JeSuisParis‬(อันหลังมาจากทาง facebook เองครับ)
ที่มา : Facebook

วันอังคารที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

วิธีตรวจสอบ Windows ที่ใช้ว่าแท้หรือไม่ ก่อนอัพ Windows 10

           ตามสัญญาของไมโครซอฟท์ต่อการอัพเดต Windows 10 จะเริ่มต้นขึ้นในวันที่ 29 กรกฎาคม ตามเวลาท้องถิ่น (หรือตรงกับเวลาบ้านเราวันที่ 30 กรกฎาคม ศกนี้) ซึ่งผู้ใช้ Windows 7, 8 และ 8.1 ทั้ง “ของแท้” และ “ของเถื่อน” ต่างได้เฮเพราะได้สิทธิ์อัพเดต Windows 10 ฟรีเหมือนๆ กัน
         แต่ด้วยข้อจำกัดของคำว่า “ฟรี” และความแตกต่างระหว่างผู้ใช้ของแท้กับของเถื่อนอาจทำให้ผู้ใช้คอมพิวเตอร์พี ซีหรือโน้ตบุ๊คส่วนตัวเริ่มสงสัยว่า Windows ที่ใช้อยู่เป็นของแท้หรือไม่ … ? วันนี้ aripfan ที่เทคนิคง่ายๆ มาให้ตรวจสอบกันได้เองครับ (อ่านต่อคลิ้ก)

วันพุธที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

มาดูกันกันว่า Windows 10 มีอะไรที่น่าสนใจกับผู้ใช้งานในประเทศไทยกันบ้าง

Windows 10 นั้น ตอบสนองการทำงานอย่างรวดเร็วและให้ความรู้สึกที่คุ้นเคยในการใช้งาน ด้วยการกลับมาของปุ่ม Start Menu และ Live Tiles และมีการอัปเดทฟีเจอร์ที่สำคัญกับผู้ใช้งาน Windows 10 เป็น Windows ที่มีความปลอดภัยที่สุดของไมโครซอฟท์ ด้วยโปรแกรม Windows Defender และ SmartScreen ที่ได้รับการปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้น เพื่อช่วยป้องกันไวรัส มัลแวร์และภัยทางอินเตอร์เน็ต
Screen Shot 2558-07-29 at 6.21.03 PM

รวมไปถึงนวัตกรรมใหม่อย่าง Windows Hello ซึ่งทำให้สามารถล็อกอินเข้าเครื่องได้อย่างรวดเร็ว ปลอดภัยและไม่ต้องใช้พาสเวิร์ด และด้วยการอัปเดทที่ง่ายดาย จึงช่วยให้มีการอัปเดทฟีเจอร์และอัปเดทความปลอดภัยตลอดอายุการใช้งานของอุปกรณ์
Windows 10 ยังสะท้อนตัวตนของผู้ใช้และมอบประสิทธิภาพการทำงานและสิ่งที่คุณชื่นชอบได้ดีขึ้น ด้วยการใช้เสียง ปากกา หรือท่าทาง เพื่อการใช้งานกับเครื่องคอมพิวเตอร์ได้อย่างเป็นธรรมชาติ Windows 10 ได้ถูกออกแบบมาเพื่อใช้งานกับออฟฟิส (Office) และสไกป์ (Skype) ได้อย่างสมบูรณ์แบบที่สุด และด้วยสแนป (Snap) และทาสค์ วิว (Task View) ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเปลี่ยนแอพไปมาระหว่างการใช้งาน แต่ยังสามารถจัดระเบียบหน้าจอได้ลงตัว นอกจากนี้ Windows 10 ยังมอบนวัตกรรมการใช้งานที่หลากหลาย ดังนี้:
Office Mobile apps สำหรับแท็บเล็ตที่เป็น Windows 10 พร้อมให้บริการแล้วใน Windows Store โดยแอพ Word, Excel และ PowerPoint ถูกสร้างขึ้นมาเหมาะสำหรับการทำงานนอกสถานที่ ให้ประสบการณ์การใช้งานด้วยการสัมผัสที่ลื่นไหลสำหรับแท็บเล็ตขนาดเล็ก
นอกจากนี้ ยังมีแอพ OneNote ฉบับสมบูรณ์ที่ติดตั้งไว้มาพร้อม Windows 10 เพื่อให้ผู้ใช้งานการขีดเขียนแบบพร้อมแชร์สามารถทำงานได้อย่างที่ต้องการ สำหรับ Office Desktop app หรือ Office 2016 จะให้ฟีเจอร์การใช้งานที่สมบูรณ์แบบสำหรับการทำงานแบบมืออาชีพ และถูกออกแบบมาเพื่อใช้งานกับคีย์บอร์ด เมาส์ อย่างแม่นยำ Office 2016 สามารถทำงานได้ทั้งบนจอขนาดใหญ่ แล็ปท็อป และอุปกรณ์ 2 in 1 อย่าง Surface Pro 3
บราวเซอร์ใหม่ล่าสุด Microsoft Edge ให้ผู้ใช้งานเข้าเว็บไซต์ อ่าน ทำเครื่องหมายและแชร์ได้อย่างรวดเร็ว
แอพที่ติดตั้งมากับตัวเครื่อง หรือ Built in App ที่ประกอบด้วย รูปภาพ, แผนที่, Groove แอพฟังเพลงใหม่ล่าสุดของไมโครซอฟท์ และ Movie & TV ที่มอบความบันเทิงและการใช้งานที่มีประสิทธิภาพ OneDrive ช่วยให้ผู้ใช้งานเก็บไฟล์และแชร์ พร้อมอัปเดทในทุกอุปกรณ์ของผู้ใช้งาน
Microsoft Phone Companion app แอพที่ช่วยให้ iPhone,Android และ Windows Phone ทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่นกับอุปกรณ์ Windows 10
Windows Store ใหม่เปิดให้บริการแบบวัน-สต็อปช้อปปิ้ง ที่จะเป็นศูนย์รวมทั้ง แอพพลิเคชั่น เกม ภาพยนตร์ รายการทีวี และเพลงใหม่ล่าสุด ทั้งแบบฟรีและมีค่าบริการ ซึ่งสามารถใช้ผ่านอุปกรณ์ Windows 10 ได้ทั้งหมด ซึ่งนั่นคือคุณสามารถดาวน์โหลดแอพบน Windows Store ใหม่นี้ที่เดียวแต่พร้อมใช้กับทุกอุปกรณ์ในมือคุณ โดยจะ ได้รับการอัปเดทแบบเรียลไทม์บน app tile และข้อมูลทั้งหมดบน Windows Store นั้นได้ผ่านการตรวจสอบโดย Microsoft เพื่อช่วยให้อุปกรณ์ต่างๆ มีความปลอดภัยมากขึ้น
จากผลการสำรวจล่าสุดนักพัฒนาแอพพลิเคชั่น โดย Microsoft เอเชียแปซิฟิก ครอบคลุม 8 ประเทศ รวมถึงประเทศไทย พบว่าร้อยละ 78 ของนักพัฒนามีความสนใจที่จะพัฒนาแอพบน Windows 10 ด้วยเหตุผลหลัก 3 ประการ คือ โอกาสที่จะได้พัฒนา Universal Apps ที่สามารถใช้งานได้ในหลายอุปกรณ์ ตั้งแต่ พีซี มือถือ แท็บเล็ต รวมไปถึงอุปกรณ์สำหรับการสวมใส่อย่าง HoloLens โอกาสในการเข้าถึงอุปกรณ์จำนวน 1 พันล้านเครื่องที่จะอยู่บนแพลตฟอร์มวินโดวส์ 10 ในอีก 2-3 ปีข้างหน้า และการที่แอพ iOS และ Android สามาถใช้งานบน Windows 10 ได้
ที่มา – Microsoft

Copy บทความจาก flashfly.net http://www.flashfly.net/wp/?p=124457